อนุภาษและบุตร
ในปีพ.ศ. 2482 ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ฐานะของหลวงอนุภาษภูเก็ตการมีความมั่งคั่งและมั่นคงมาก เห็นได้จากการที่ทางประเทศมาเลเซียเรียกท่านว่า “เซี๊ยบี้อ๋อง” แปลว่า “เจ้าแห่งดีบุก” เมื่อกิจการดีขึ้นเป็นลำดับ ท่านมีความห่วงใยในอนาคตของครอบครัว และต้องการเห็นความเป็นปึกแผ่นมั่นคงของกิจการอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน จึงจดทะเบียนตั้งบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2482 ด้วยทุนทรัพย์ดำเนินงาน 2,200,000.00 บาท ให้ชื่อว่า บริษัท อนุภาษและบุตร จำกัด สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 74 ถนนเทพกระษัตรี ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต จัดแบ่งให้ ภรรยา บุตร ธิดา ทุกคนเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทร่วมกับท่าน ในระยะแรกบริษัทได้ก่อตั้งเพื่อกิจการเหมืองแร่ดีบุกโดยวิธีเหมืองสูบในท้องที่จังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ยังมีกิจการเหมืองบกที่จังหวัดระนอง ตรัง และนครศรีธรรมราช อีกทั้งยังมีแผนกงานเสริมให้การทำเหมืองไม่ต้องหยุดชะงัก เช่น แผนกโรงหล่อกลึง แผนกโรงไม้แปรรูป โรงสีข้าวเพื่อป้อนคนงานเหมืองแร่ และมีแผนกอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับแผนกการทำเหมือง คือ โรงทำสบู่ โรงทำ สุรา สวนยาง สวนมะพร้าว เรือเดินทะเลภูเก็ต-กันตัง ต่อมาราคาแร่ดีบุกตกต่ำประกอบกับแหล่งแร่หมดไป อีกทั้งรัฐบาลไม่มีนโยบายส่งเสริมการทำเหมืองแร่ดีบุกในจังหวัดภูเก็ตและห้ามไม่ให้มีการทำเหมืองแร่ดีบุก แต่มีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเข้ามาแทนที่ กิจการเหมืองแร่ดีบุกของบริษัทจึงยุติลงแม้ปัจจุบันบริษัทอนุภาษและบุตรไม่ได้ดำเนินกิจการเหมืองแร่แล้วกระนั้นการใช้ผืนดินที่มีอยู่แต่เดิมจากกิจการเหมืองแร่มาประกอบสัมมาชีพยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยรากฐานอันมั่นคงและด้วยความวิริยะอุตสาหะที่หลวงอนุภาษภูเก็ตการได้สร้างไว้ ในปัจจุบัน บริษัทอนุภาษและบุตร จำกัด ดำเนินกิจการมาเป็นระยะเวลา 78 ปี มีบริษัทในเครือทั้งสิ้น 12 บริษัท ประกอบด้วยกิจการตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ อสังหาริมทรัพย์ และสนามกอล์ฟ มีพนักงานประมาณ 1,500 คน มีผู้บริหาร 3 ท่าน คือ
- คุณณรงค์ หงษ์หยก ประธานกรรมการ
- คุณมนตรี หงษ์หยก กรรมการจัดการ
- ร้อยโทภูมิศักดิ์ หงษ์หยก กรรมการจัดการ
นอกจากบุตรได้เข้ามาทำงานตามความประสงค์ของบิดาผู้ก่อตั้งบริษัทแล้วปัจจุบันทายาทรุ่นหลานและเหลนของท่านก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการด้วย